4.เบื้องหลังไซด์ไลน์
ผมรวบรวมประสบการณ์ที่ถ่ายทอดโดยสาวไซด์ไลน์หรือคนใกล้ชิดมาให้ลองอ่านกัน ซึ่งแต่ละเรื่องค่อนข้างยาว ผมจึงตัดทอนเรียบเรียงใหม่ให้กระชับขึ้นครับ
4.1 เรื่อง “ รับงานครั้งแรก ”
“…ที่ตัดสินใจทำเพราะมีปัญหาเรื่องเงินค่ะ กิจการที่บ้านโดนฟ้องล้มละลาย ป๊ากลายเป็นคนกินเหล้า เข้าบ่อน และทะเลาะกับม๊าทุกวัน เราเบื่อเลยขอออกมาอยู่กับเพื่อนที่หอแถวมหาลัย ตอนนั้นมีเงินติดตัวมาไม่กี่พัน เราไม่กล้าขอม๊าเพราะม๊าคงไม่มีให้ ทั้งม๊ายังต้องเลี้ยงน้องอีกสองคน เราหางานพาร์ททามทำ แต่เราไม่เคยทำงานมาก่อน มันทั้งเหนื่อยทั้งเครียด เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เราร้องไห้ทุกวัน ต้องอยู่แบบอดๆ อยากๆ อะไรที่เคยได้กินก็กินเหมือนเดิมไม่ได้เพราะไม่มีเงิน เรายืมเงินเพื่อนแทบทุกคนจนไม่มีใครให้ยืมแล้ว เราจึงหาโพสหาคนดูแลในเวปตามที่เพื่อนแนะนำ เราคิดว่าถ้าได้ผู้ชายรวยๆ มาดูแลเหมือนแฟนซักคนนึงชีวิตเราคงจะดีขึ้น มีผู้ชายคนนึงติดต่อมา อายุ 30 กว่า หน้าตาโอเค คุยไลน์กันอยู่นานก่อนที่จะตกลงรับงานกับเขา เขาขอลดจากเดือนละ 30,000 เป็น 20,000 เราก็โอเคเพราะเราเริ่มรู้สึกดีกับเขาแล้ว ก่อนวันนัดเจอเขาขอแบ่งจ่ายเป็นสัปดาห์ละ 5,000 ก่อนเพราะกลัวเราชิ่ง เราก็ยอม คืนแรกเราไม่ได้เสียใจเลย รู้สึกเหมือนได้นอนกับกิ๊กที่เพิ่งเริ่มคุยกันมากกว่า แต่ที่เราเสียใจคือพอเขามารับเราไปนอนอีก 3 ครั้ง เขาก็บล็อกเบอร์บล็อกไลน์เราหมดเลย เท่ากับว่าเรามีค่าตัวแค่ 1,250 ต่อคืนเอง เราเสียใจมากที่โดนหลอก รู้สึกสิ้นหวังจนตัดสินใจเข้าไปที่อาบอบนวด ได้คุยกับซ้อเมียเจ้าของจนเราสบายใจและเห็นโอกาสที่จะได้เงิน ซ้อให้เราไปตรวจที่คลินิกข้างๆ และให้เราเริ่มงานได้เลย
วันแรกที่อาบอบนวด เราทั้งกลัวและสับสน แต่ดีที่มีคนคอยแนะนำและให้กำลังใจ เราแต่งหน้าให้เข้มๆ เผื่อเจอคนรู้จักจะได้จำเราไม่ได้ เราถูกแยกออกมานั่งนอกห้องกระจกกับคนใหม่อื่นๆ อีก 5-6 คน เราอายมากแกล้งนั่งเล่นมือถือตลอด คืนนั้นถูกลูกค้าเรียกไป 3 รอบและจะมีต่ออีก แต่เราไม่ไหว เราไม่ใช่คนสวยอะไรมาก แค่เป็นคนผิวขาว หน้าออกหมวยๆ ตอนเราเที่ยวกลางคืนก็เจอบ่อยๆ ผู้ชายที่อยากได้เรา ผู้ชายก็คงชอบแนวนี้มั้ง คืนนั้นพอกลับมาถึงห้องนอนกำเงิน 4,500 ที่ได้ร้องไห้ทั้งคืน แต่ตอนนี้เราทำใจได้แล้วค่ะ คิดว่าสมัยเที่ยวเสียตัวให้ผู้ชายไปฟรีๆ ก็เสียมาเยอะแล้ว แต่นี่เราได้เงินใว้ใช้เลี้ยงตัวเอง แบ่งให้แม่ใว้เลี้ยงน้อง กะว่าจะทำเฉพาะคืนวันศุกร์-เสาร์ วันละ 4 – 5 รอบ เก็บเงินได้อีกซักก้อนก็จะเลิกแล้วค่ะ…”
4.2 เรื่อง “โดนเอาฟรี ลูกค้าโกงค่าตัว”
“….ระวังลูกค้าสันดานเหี้ย ตัวใหญ่ๆ ดำๆ อายุประมาณ 30 เบอร์โทร.087-71××××× คุยว่าตัวเองเป็นเจ้าของโต๊ะบาคาร่า มันนัด 3 ทุ่ม แต่ก็ โทรเลื่อนนัดเรื่อยๆ มาถึงจริงๆ ก็เกือบ 6 ทุ่ม ไอ้เราไม่ชอบนัดงานซ้อนเมื่อคืนก็เลยรับงานกับมันแค่คนเดียว เราทำงานออฟฟิศต้องตื่นเช้าก็อุตส่าห์หยวนให้ ลงไปรอรับมันที่ชั้นล่างอพาร์เม้นท์เรากลางดึก มันมาถึงเราก็พาเดินขึ้นบันได มันก็บ่นว่าร้อนตลอดทาง ถึงห้องก่อนอาบน้ำเราขอเก็บเงินมัน มันก็หงุดหงิดใส่บอกว่าร้อน ขออาบน้ำก่อน เราก็อาบให้มัน พออาบเสร็จมันก็ไม่ให้เงิน บอกว่ากระเป๋าตังค์มันอันนี้มีแค่บัตร ATM เงินสดที่เพิ่งเอามาจากร้านอยู่อีกกระเป๋าอยู่ในรถ ได้อาบน้ำแล้วขี้เกียจลงไป มันขอเย็ดกันก่อนมันมีเวลาไม่มาก พอตี 1 มันเย็ดเสร็จ มันก็อารมณ์ดีบอกว่าเราเย็ดดี เดี๋ยวมันให้ 3000 เลย มันบอกจะลงไปเอาให้ เราขอเป็นคนถือกุญแจยิงรีโมทให้ มันก็โมโหใส่เราอีก ดึงกุญแจไป บอกว่าเสียเวลา ให้เราตามลงมาเอาข้างล่าง เราหาเสื้อคลุมใส่ตามลงไปจากชั้น 4 แต่ไม่ทันมัน มันสตาร์ทรถขับออกไปเฉยเลย แม่ง.. อย่างเหี้ย โกงกันต่อหน้าต่อตา นี่ขนาดอยู่หอเราเองแท้ๆ ทะเบียนรถมัน กจ.4XXX ชลบุรี เพื่อนๆ ระวังด้วยค่ะ กูจะจำมึงใว้เลย ไอ้สัส ไอ้เหี้ย ชิงหมาเกิด…”
4.3 เรื่อง “แฟนรู้แล้วว่าเราแอบทำงานไซด์ไลน์”
“…เราอายุ 28 ทำงานเป็น Operetor ที่บริษัทแห่งนึง มีลูกคนนึงกำลังเรียนอนุบาล ส่วนแฟนอายุ 30 ตกงานมาปีกว่าแล้ว นอนอยู่บ้านเล่นเกมส์ เล่นหุ้น เลี้ยงลูก ไปรับไปส่งลูก แรกๆ ก็ยังดีอยู่ทั้งเงินเดือนเราเงินเก็บ เงินที่แฟนเล่นหุ้นได้ ก็ประครองกันไป พอนานเข้าเงินเก็บหมด เงินหุ้นไม่ได้ก็เริ่มฝืด จนเราเป็นหนี้บัตรอยู่หลายใบ แฟนจะขายรถแต่เราไม่ยอม เราไม่อยากให้ลูกลำบากนั่งรถเมล์ ต่อมาแฟนแทงบอลบ่อยขึ้นจนเป็นหนี้โต๊ะบอล พอโดนตามทวงบ่อยๆ ก็เครียด หนี้สินรุมเร้า ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเช่าบ้าน บ้านต่างจังหวัดพ่อก็ป่วยหนัก ทำงานไม่ได้ เจ้าหนี้ก็กำลังจะยึดที่นา แม่กับน้องเครียดมาก เราเสียใจที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย จึงตัดสินใจเดินเข้าไปสมัครงานไซด์ไลน์ที่ อาบอบนวด เราโกหกแฟนว่าทำโอที แต่เรามาทำที่อาบอบนวดแทน เริ่มทำจากหกโมงถึงสาวมทุ่ม ตอนนอนกับแขกคนแรกใจหายมากแต่ก็คิดว่าทำเพื่อครอบครัว พอทำไปนานเข้าก็รู้สึกเฉยๆ คิดว่ามันก็เป็นงานอีกงานนึงที่ได้เงินดี เราเริ่มปรับตัวได้ ขณะที่แฟนเลิกแทงบอลอยู่บ้านเลี้ยงลูก ขายเกมส์ผ่านเน็ตก็พอมีเงินมาเข้ามาบ้าง ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี แต่เพื่อนแฟนมาเห็นเราจึงโทรไปบอกแฟนมาดู คืนนั้น 3 ทุ่มกว่า แฟนพาลูกมาดักรอเราที่ทางออก เรากอดกันร้องไห้ในรถอยู่นาน แฟนบอกว่าเขาเคยสงสัยแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่วันต่อมาชีวิตก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเดิม แฟนอยู่บ้านนั่งหน้าคอมเล่นเกมส์ทั้งวันทั้งคืนไม่โทรหา ส่วนเราไปทำงานตอนเช้า เลิกงานก็มาทำพิเศษที่อาบอบนวด สี่ทุ่มถึงเข้าบ้าน แฟนเห็นเรากลับมาก็แค่ทำหน้าเศร้าๆ ไม่ได้ถามอะไรเลย เขาคงเห็นโลกในจอคอมพิวเตอร์ของเขาสำคัญกว่าเรา…”
4.4 เรื่อง “คุยกับมาม่าซัง”
“…ในรอบปีที่ผ่านมา อาบ อบ นวด แทบไม่ต้องพึ่งพาเอเย่นต์จัดหาหญิงสาวเลย เพราะส่วนใหญ่จะเข้ามาสมัครด้วยตัวเอง โดยต้องการทำงานแบบไซด์ไลน์ หรือเลือกทำงานเฉพาะในวันที่สะดวกเท่านั้น ตอนสัมภาษณ์ก็แทบไม่เชื่อว่าคนที่มีหน้าตาดีๆ การงานดีๆ จะมาขายตัว แต่เมื่อได้พูดคุยแล้วก็เข้าใจเพราะส่วนใหญ่เดือดร้อนเรื่องเงิน จากค่าครองชีพที่สูงขึ้นแต่รายได้เท่าเดิม หญิงสาวที่เข้ามาสมัครงาน 10 คน มี 7 – 8 คน ที่มีงานประจำทำหรือไม่ก็เป็นนักศึกษา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเอเย่นต์จะพาเด็กสาวจากภาคเหนือหรือภาคอีสานเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้แต่ปัจจุบันมันตรงกันข้าม เด็กสาวเรียนจบปริญญามีงานประจำทำต่างเข้ามาหาลำไพ่พิเศษเวลาเงินไม่พอใช้ ซึ่งครั้งแรกอาจทำใจยากหน่อย พอครั้งต่อๆ ไปก็ชิน พวกไซด์ไลน์ที่ให้นั่งนอกตู้ เราแบ่งค่าตัวกัน 50/50 ซึ่งกลุ่มนักเที่ยวจะสนใจพวกอยู่นอกตู้เป็นพิเศษ เพราะคิดว่าไม่ใช่มืออาชีพ เข้ามาทำแค่ครั้งคราว ผิดกับพนักงานในตู้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานเก่าที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว…”
4.5 เรื่อง “แทบล้มทั้งยืน เมื่อรู้แฟนว่าขายตัว”
“…ผมกับแฟนอายุยี่สิบกว่าๆ เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐเหมือนกัน เงินเดือนเราที่ได้ก็หมื่นกว่าเกือบสองหมื่นกันทั้งคู่ แต่แฟนมักบ่นว่าเงินไม่พอใช้ ผมก็คอยเตือนเค้าเสมอครับว่าอย่าติดหรูแบบเด็กนักศึกษาที่ส่วนใหญ่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ พักหลังแฟนเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยมีเวลาให้ ปิดโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้อยู่บ่อยๆ ผมเริ่มสงสัย พอถามแฟนก็บอกว่าไปรับจ้างทำงานวิจัยให้นักศึกษา พอถามว่าที่ไหนก็ไม่บอก ถามมากก็โกรธ ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร ทำวิจัยก็ทำวิจัย ผมเห็นแฟนซื้อไอโฟน6 เครื่องใหม่ ซื้อของใช้ใหม่ๆ หลายอย่างก็คิดว่าคงได้เงินจากทำวิจัย แฟนเริ่มชอบชวนไปกินอะไรแพงๆ บ่อยขึ้น พอผมบอกว่าเปลือง เธอก็บอกว่าเธอจะเลี้ยงเอง ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าแฟนเอาเงินมาจากไหนเยอะจัง จนไปค้นเจอไอโฟน5 เครื่องเก่าของแฟนซุกอยู่ใต้ที่นอนห้องเธอ ผมเอามาดู มีแบต มีซิมมีเน็ตพร้อมใช้งาน ผมแอบดูในไลน์มีคุยกับผู้ชายใว้หลายคน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องตกลงราคา และนัดวันเวลากัน บางคนคุยถึงตอนเอากันด้วย ผมเห็นแล้วจุกอกเลยครับ ขาอ่อนแทบล้มทั้งยังยืน เดินออกจากห้องเธอมาแบบเบลอๆ เฝ้าโทษตัวเองว่าทำไมไม่มีเงินเยอะๆ ให้เธอใช้ พอแฟนอาบน้ำเสร็จไม่เห็นผมก็โทรตาม แต่ผมไม่รับ ผมส่งไลน์กลับไปบอกว่าผมรู้ความจริงเรื่องเธอทำงานไซด์ไลน์หมดแล้ว แฟนส่งข้อความมาขอโทษ ขอโอกาสมากมาย แต่ผมไม่ตอบ เราเลิกกันไปโดยปริยายครับ ในที่ทำงานเราก็เลี่ยงที่จะเจอหน้ากัน ทรมานใจจริงๆ ครับ…”
จากเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันในบล็อกนี้ ทำให้ผมคิดว่าคนที่ตัดสินใจ “ขายตัว” ก็ไม่ได้อยากทำกันนักหรอก บางคนจำใจทำเพราะความจำเป็น ขณะที่บางคนทนต่อสิ่งเร้าของวัตถุนิยมไม่ได้ จริงๆ อาชีพนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในเมื่อมีคนอยากซื้อก็ย่อมมีคนอยากขายครับ อย่าว่ากันเลย
